นางธีรพร พรพฤฒิพันธ์ นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ เปิดเผยว่า ประเพณีลอยกระทง ซึ่งตรงกับวันเพ็ญ เดือน 12 เริ่มขึ้นครั้งแรก ในสมัยกรุงสุโขทัยเป็นราชธานี โดยมีนางนพมาศ หรือท้าวศรีจุฬารัตน์ พระสนมเอกแห่งพระร่วงเจ้า เป็นผู้ให้กำเนิด ในปัจจุบัน การลอยกระทงได้แพร่หลาย และเป็นที่นิยมไปอย่างกว้างขวาง โดยผู้ใหญ่มักจะเกณฑ์เด็กๆ มาช่วยกันทำกระทงนำไปลอยในแม่น้ำ เพื่อขอขมาแก่พระแม่คงคา เพราะได้อาศัยน้ำกินน้ำใช้ และการทิ้งและถ่ายสิ่งปฏิกูลลงไปในน้ำ พร้อมทั้งอธิษฐานขอสิ่งดีๆ ให้แก่ตนเอง คนรัก และครอบครัว และเพื่อเป็นการสืบสานประเพณี สร้างความรัก ความสามัคคีให้เกิดขึ้นในหมู่คณะ ทางเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ จึงได้ร่วมกับทุกภาคส่วนและประชาชนทั้ง 17 ชุมชน กำหนดจัดงานประเพณีลอยกระทงประจำปี 2553 ระหว่างวันที่ 19 – 21 พ.ย.53 ณ ถนนสันคูเมือง (หลังงานป้องกันเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์) โดยวันแรกของงานเป็นการจัดกิจกรรมถนนคนเดิน วันที่ 20 พ.ย.53 เป็นการประกวดหนูน้อยนพมาศ อายุระหว่าง 3-5 ปี รับจำนวนเพียง 20 คนเท่านั้น จะทำการประกวดตั้งแต่เวลา 19.00 น.เป็นต้นไป วันที่ 21 พ.ย.53 เวลา เป็นการประกวดประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ ของนักเรียน ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ซึ่งผู้เข้าร่วมประดิษฐ์กระทง จะใช้ห้องประชุมชาญอนุสรณ์ เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ เป็นสถานที่แข่งขัน เริ่มตั้งแต่เวลา 12.00-16.00 น. จากนั้นเวลา 17.00 น.เป็นขบวนแห่นางนพมาศและการแสดงต่างๆจาก 17 ชุมชน จากสวนสาธารณะเพชบุระ ไปตามเส้นทางในตลาดเทศบาลเมืองและสิ้นสุดหลังงานป้องกันเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นสถานที่ในการจัดงาน ต่อด้วยพีเปิด การลอยกระทง การแสดงและการประกวดนางนพมาศ ซึ่งปีนี้ จะรับสมัครนางนพมาศจำนวน 17 คนในนามชุมชนทั้ง 17 ชุมชน ผู้เข้าประกวดต้องมีอายุระหว่าง 17-25 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ในเขตเทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ไม่น้อยกว่า 3 เดือน นับถึงวันสมัคร ผู้ที่สนใจทั้งการประกวดกระทง การประกวดหนูน้อยนพมาศ และการประกวดนางนพมาศ ติดต่อสอบถามรายละเอียดและสมัครได้ที่ กองการศึกษา เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 18 พ.ย.53 หรือโทร.056-711007ต่อ 306นายกเทศมนตรีเมืองเพชรบูรณ์ กล่าวด้วยว่า ปีนี้นอกจากการจัดงานสืบสานประเพณี เน้นความเป็นไทยแล้ว เทศบาลเมืองเพชรบูรณ์ ได้ปิดถนนสันคูเมือง ช่วงการจัดงานลอยกระทง เป็นถนนคนเดินด้วย โดยได้เปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้านำสินค้าและบริการต่างๆมาวางจำหน่ายตลอด 3 วัน คือวันที่ 19-21 พ.ย.53 ซึ่งเป็นการสร้างสีสันและความสนุกสนานแก่ผู้มาเที่ยวงานมากยิ่งขึ้น
การันต์ ธนสิริพงษ์: ข่าว
วิริทธิ์พล หิรัญรัตน์:บันทึก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น